OT MAGAZINE

ถ้าให้อธิบายตำแหน่งของคุณใน 1 คำ?

「ใช้คำว่า “ผู้เล่นอิสระ” เพื่อแสดงถึงตำแหน่งของตัวผม อาจเป็นอีกหนึ่งคำเรียกพิเศษของฟรีแลนซ์ เพราะผมสามารถทำงานกับแบรนด์หรือธุรกิจของประเทศต่าง ๆ ได้ คิดว่านี่ยังเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการแสดงออกถึงชีวิตของผมด้วย」

แฟชั่นไอคอนของคุณคือ?

「มักจะถูกถามถึงแฟชั่นไอคอนบ่อยมาก แต่ว่าไม่มีครับ หรือจะเรียกว่า สนใจทุกคนที่อยู่ในโลกก็ได้ ตอนที่มองใครก็ตาม จะเริ่มตรวจสอบว่าเขาคนนั้นใส่อะไรอยู่นะ อ้างอิงจากสิ่งที่เขาสวมใส่ แล้วคิดทวนไปมาว่า อยากจะมีไอเท็มแบบไหน แล้วก็ในคอลเล็กชั่นอื่นอยากจะทำของแบบไหนออกมานะ? หลังจากนั้น วิธีการเข้าถึงของผมก็คือซึมซับและสังเกตทุกอย่างของทุกคน เพราะแบบนั้น ทุก ๆ สถานที่ที่ไปเยือน ไม่ว่าจะสนามบิน ตามถนน ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ล็อบบี้โรงแรม สำหรับผมมันคือแหล่งสร้างแรงบันดาลใจครับ」

กฎที่ยอมไม่ได้ในเรื่องแฟชั่นคือ?

「ไม่มีกฎ เพราะแบบนั้นก็เลยไม่ชอบพวกเดรสโค้ดด้วย ไม่ชอบการที่มีคนมาบอกว่า “ต้องใส่xxxนะ” สำหรับตัวผมเองไม่ได้มีกฎอะไร」

สไตล์ของ Nick ถูกสร้างขึ้นเมื่อไหร่?

「ตอน 5 ขวบครับ แต่จริง ๆ แล้วเหมือนจะเริ่มใส่ใจกับเนื้อสัมผัสของผ้ามาตั้งแต่ก่อนจะ 5 ขวบอีก ตอนที่ไปอนุบาล เคยมีที่แม่ไม่สามารถให้ผมเปลี่ยนเสื้อได้ ตอนประถม ก็ต้องเลือกเสื้อผ้าที่จะซื้อด้วยตัวเอง เสื้อผ้าที่จะใส่ก็ถ้าไม่ได้เลือกด้วยตัวเองก็จะไม่พอใจเอาเสียเลย เพราะอย่างนั้น สไตล์ของผมก็เลยจะมีฐานมาจากแนว Ivy League คิดว่าส่วนมากไม่น่ามีคนที่เรียกสไตล์ของผมตอนนี้ว่าแนวดั้งเดิมหรอก แต่สิ่งที่ผมสนใจทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากแนวคลาสสิกก่อน แล้วถึงค่อย ๆ ทำสิ่งนั้นให้ออกมาเป็นไอเดีย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมชอบแฟชั่นญี่ปุ่น สำหรับผมแล้วคือ วิธีการแต่งให้ออกมาน่าสนใจที่สุดและแฝงความคลาสสิกเอาไว้ครับ」

ไอเท็มที่ขาดไม่ได้ในกระเป๋าคือ?

「ผมมีไอเท็มที่ขาดไม่ได้เพียบเลย แต่ระลึกไว้เสมอว่าต้องไม่ให้ดูเหมือนว่าพกของมากมายไปไหนมาไหนด้วย ดังนั้น กระเป๋าสะพายข้างเลยกลายเป็นไอเท็มที่สำคัญมาก ๆ แล้วก็ตามด้วยกระเป๋าเสื้อผ้า คิดว่าการจบด้วยการไม่ถืออะไรเลยนั้นถูกต้อง เพราะอย่างนั้น กระเป๋าเสื้อผ้าจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดในเครื่องแต่งกายผู้ชาย ตอนออกเดินทางท่องเที่ยว จะถือของเยอะแยะไปหมด แต่ตอนที่เดินในเมืองบ้าง ไปประชุมบ้าง จะไม่ถืออะไรเลยครับ ไม่ก็ให้ดูเหมือนว่าไม่ได้ถืออะไรเลย」

ไอเท็มที่ถูกใจที่สุดใน THE ONITSUKA?

「มี 2 ชิ้นที่ประทับใจ อันหนึ่งเป็นรองเท้าหุ้มส้นสไตล์ Brogue เพราะชอบตรงที่ตกแต่งคาดหัวรองเท้ารูปตัว W แล้วรู้สึกว่าทาง THE ONITSUKA เองก็ผลิตรองเท้า Brogue ได้ดีมาก ๆ ก็เลยได้มาผลิต BROGUE CHUKKA ในการคอลแลปส์กันครั้งนี้
ส่วนอีกอันเป็นกระเป๋าโท้ทหนังสีเงินสวย ที่กำลังคิดว่าอยากจะได้หลังจากนี้ คิดว่า 2 ชิ้นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็สามารถใช้ได้ ด้วยความคลาสสิกตลอดกาล ไม่ว่าจะ 3 ปีก่อนหน้านี้ หรือ 3 ปีหลังจากนี้ นั่นคือความน่าสนใจของ THE ONITSUKA สำหรับผมครับ」

คิดว่าสไตล์แฟชั่นโตเกียว มีอะไรที่แตกต่างจาก มิลาน ปารีส นิวยอร์กไหม?

「แฟชั่นโตเกียว ต่างออกไปจากทั้งฝั่งอเมริกาและฝั่งยุโรป ผมคิดว่ามันต่างตรงการใส่ใจในรายละเอียด ผมว่าคนญี่ปุ่นมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเรียนรู้ที่สุดในโลก ศึกษา เรียนรู้ เข้าใจประวัติศาสตร์ เข้าใจว่าสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไม และเมื่อไหร่ แล้วจึงค่อยก้าวไปสเต็ปถัดไป พยายามที่จะอัปเดตมัน หรืออีกนัยหนึ่ง นี่ก็คือสิ่งที่ผมตั้งใจทำอยู่ครับ」

มีเรื่องที่ให้ความสนใจ เพื่อรักษารูปร่างหรือสุขภาพ?

「สำหรับผม การไปยิมเป็นกิจวัตรหนึ่งเดียวในการใช้ชีวิตของผม ตามปกติแล้วพยายามจะเทรนนิ่ง 6 วันต่อสัปดาห์ แม้ตอนที่เดินทางก็พยายามไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ที่ต้องติดพันอยู่กับตารางงานอันยุ่งเหยิงอย่างปารีส ยิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เรื่องการกินก็ยังมีที่ต้องปรับปรุง มีกินอาหารเสริมเยอะเหมือนกัน สิ่งที่ตัวเองในอายุเท่านี้สามารถควบคุมได้ก็คือ การเทรนนิ่ง การกินอาหาร อาหารเสริม 3 เรื่องนี้ นอกนั้นแล้วไม่สามารถควบคุมได้ด้วยตัวเองครับ」

ในแต่ละวันมีงานที่ต้องตัดสินใจมากมาย มีหลักในการตัดสินใจไหม?

「ผมเป็นมนุษย์ประเภทที่มีความสามารถในการตัดสินใจไม่ผิดแน่ แต่จากประสบการณ์การทำงานของผม ไม่ว่าจะเป็นนักสร้างสรรค์ที่เก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ผมมีเพื่อนที่เคยทำงานอยู่ด้วยกันที่แอปเปิลของ Steve Jobs ได้ยินมาว่าเขาจะขอความคิดเห็นจากผู้อื่นเสมอ ซึ่งผลลัพธ์โดยทั่วไปแล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลงความคิดเห็น แต่จะรู้ความคิดเห็นของคนรอบข้าง และผมก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ตอนแรกเราจะมีคำตอบของตัวเอง และมีโอกาสที่คำตอบนั้นจะถูกต้องราว ๆ 70 – 80% ไม่ใช่ 100% เลยอยากจะเข้าใจว่าคนอื่นเขาคิดอะไรกันนะอยู่เสมอ
กรณีทั่วไป ผมเปลี่ยนได้ เพราะเราพอเข้าใจว่าไม่ใช่ว่าเราจะรู้ทุกอย่าง การรับฟังเป็นสิ่งสำคัญ สำคัญพอ ๆ กับการพูดเลย แล้วก็ ต่อให้ล้มเหลว ก็ยังเรียนรู้จากตรงนั้นได้ ความผิดพลาดก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของกระบวนการ」

อยากให้ปี 2023 เป็นปีแบบไหน?

「ตั้งแต่ปี 2020 การใช้ชีวิตของพวกเราก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ปี 2023 ก็อยากจะเริ่มต้นให้ดีกว่าในปี 2022 สำหรับผม คิดว่าปี 2022 ก็เป็นปีที่ดีกว่าปี 2021 ในสถานการณ์ที่อนาคตไม่แน่นอนนี้ ก็อยากจะใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและมองโลกในแง่ดี」

NICK ผู้รับแรงบันดาลใจจากทุกสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง ขณะที่รับฟังความคิดเห็นรอบข้าง ก็อัปเดตสไตล์ของตนเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในการคอลแลปส์กันกับ THE ONITSUKA เขาไม่ใช่แค่ศึกษาประวัติศาสตร์ของแบรนด์ เพื่อสร้างสรรค์สไตล์ใหม่ออกมา แต่ยังคำนึงถึงการรับเอาส่วนสำคัญเข้ามาให้เป็นไปในแบบของตัวเองอีกด้วย